เมนู

แสดงสิ่งที่ไม่เป็นวินัยว่าไม่เป็นวินัย 1 ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นวินัยว่าเป็นวินัย 1
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้กล่าวไว้ไม่ได้บอกไว้ว่า ตถาคตไม่ได้กล่าวไว้
ไม่ได้บอกไว้ 1 ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตกล่าวไว้บอกไว้ว่า ตถาคตกล่าวไว้
บอกไว้ 1 ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่เคยประพฤติมาว่า ตถาคตไม่เคย
ประพฤติ 1 ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตเคยประพฤติมาว่า ตถาคตเคยประ-
พฤติมา 1 ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติว่า ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ 1
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ว่า ตถาคตบัญญัติไว้ 1 ภิกษุเหล่านั้น
ย่อมไม่ทอดทิ้งกัน ไม่แยกจากกัน ไม่ทำสังฆกรรมแยกจากกัน ไม่สวด
ปาฏิโมกข์แยกจากกัน ด้วยวัตถุ 10 ประการนี้แล ดูก่อนอุบาลี สงฆ์
ย่อมเป็นผู้พร้อมเพรียงกัน ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล.
จบอุปาลิสามัคคีสูตรที่ 8

9. อานันทสังฆเภทสูตร


ว่าด้วยผู้ทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันย่อมเสวยผลในนรกตลอดกัปหนึ่ง


[37] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูล
ถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า สังฆเภท สังฆเภท ดังนี้
สงฆ์จะเป็นผู้แตกกันด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอแล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมว่าเป็นธรรม ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่า ไม่
ใช่ธรรม... ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ตถาคตบัญญัติไว้
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ว่า ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ ภิกษุเหล่านั้น